ความหมายของการอ่าน
การอ่านเป็นกระบวนการพัฒนาทักษะ การรับรู้ความหมายของคำ
สัญลักษณ์ ความรู้ ความคิด ความรู้สึกและจินตนาการของผู้เขียน
โดยสิ่งสำคัญคือความเข้าใจในการอ่าน
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พุทธศักราช ๒๕๔๒ (๒๕๔๖: ๑๓๖๔) ให้ความหมายของคำว่า “อ่าน” ไว้ว่า
ว่าตามตัวหนังสือ
ถ้าออกเสียงด้วยเรียกว่าอ่านออกเสียง ถ้าไม่ออกเสียงเรียกว่า อ่านในใจ
สังเกตหรือพิจารณาดูให้เข้าใจ เช่น อ่านสีหน้า อ่านริมฝีปาก อ่านใจ....
ศิริพร ลิมตระการ (๒๕๔๓ : ๕) ได้กล่าวว่าการอ่านคือ กระบวนการแห่งความคิด
ในการรับสารเข้าในขณะที่อ่านสมองของผู้อ่านจะต้องคิดตาม
ผู้เขียนหรือตีความข้อความที่อ่าน ไปด้วยตลอดเวลา
ผู้อ่านที่ดีนั้นจะต้องเข้าใจข้อความที่ตนอ่านได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
สุพรรณี วราทร (๒๕๔๕: ๑๓)
ได้อธิบายความหมายของการอ่านโดยสังเขปเปรียบเทียบการอ่านกับกระบวนการถอดรหัส
เป็นปฏิกิริยาอันเป็นผลจากการเห็นสัญลักษณ์ หรือข้อความ
การอ่านเป็นเรื่องเกี่ยวกับทักษะทางความคิด
เป็นกระบวนการทางสมองที่ซับซ้อน
ประกอบด้วยการเห็นและรับรู้ข้อความ (word
perception) การเข้าใจ (apprehention) และการแปลความหมาย (interpretation)
บรรพต ศิริชัย (๒๕๔๗ : ๒) กล่าวว่า การอ่าน หมายถึง
กระบวนการทางความคิดในการรับสาร ขณะที่อ่านสมองของผู้อ่านจะต้องแปลความหมาย
ตีความข้อความหรือเรื่องราวที่อ่านไปด้วยตลอดเวลา
ในระหว่างที่ผู้อ่านกำลังอ่านหนังสืออยู่นั้น จะต้องใช้กลวิธีหลาย ๆ อย่าง
เพื่อช่วยให้เข้าใจ
เรื่องราวได้เร็วขึ้นได้แก่ ความรู้เดิมในคำศัพท์
เพื่อใช้อธิบายความหมาย แปลความ ตีความ และขยายความจากเรื่องที่อ่านได้
นอกจากนี้ผู้อ่านจะต้องมีความคิดเชิงวิจารณ์ และสร้างสรรค์
สามารถพิจารณาเหตุผลจากข้อความที่อ่าน เข้าใจความคิดหรือความมุ่งหมายของผู้เขียน
รวบรวมความคิดที่ได้จากการอ่าน
แล้วนำไปประสานกับประสบการณ์เดิมของตนเป็นความคิดใหม่
เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคม
สรุปว่า
การอ่านเป็นกระบวนการทางความคิดในการรับสาร
เป็นพฤติกรรมทางการใช้ภาษาที่มีลักษณะเฉพาะตัว เป็นการแปลความหมาย
ของตัวอักษร
สัญลักษณ์ ภาพที่ได้ดูออกมาเป็นถ้อยคำและความคิด
ทำความเข้าใจสิ่งที่อ่านแล้วนำไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาตนเอง ทั้งด้านสติปัญญา
สังคมและอารมณ์